การเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ใช่อะไรที่ง่ายแน่นอน ประเภทของธุรกิจ จะมีหลากหลายในตลาดแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างให้ต้องมานั่งคิดอีกว่า ธุรกิจที่เราจะลงทุนเป็น ธุรกิจที่น่าสนใจ หรือไม่? และอีกปัจจัยที่หลายคน “ติด” ก็คือไม่อยากลงทุน ไม่อยากทำหน้าร้าน อยากขายแบบออนไลน์มากกว่า ทางเลือกของคนยุคนี้ ง่ายสุด ก็คือ การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมันมีจุดเด่นที่ดีมากเลย เนื่องจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย แทบไม่ต้องสต็อกสินค้าไว้ แต่มันก็มีทั้งสองแบบ บางตัวแทนก็ต้องมีการสต็อกสินค้าแบบส่งเอง เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าตัวแทนจำหน่ายคืออะไร แล้วเป็นตัวแทนจำหน่ายดีอย่างไรบ้าง

ตัวแทนจำหน่าย คืออะไร?

ตัวแทนจำหน่าย ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้าเอง แต่เป็นตัวแทน ที่ช่วยจำหน่ายสินค้าให้อีกที โดยหากมีแบรนด์ธุรกิจ หรือ Distributor อยู่แล้ว ต้องการขยายตลาดมากขึ้น ก็จะมีกลุ่มที่เรียกว่าตัวแทนจำหน่าย เข้ามาติดต่อ ขอนำสินค้าไปจำหน่าย ในช่องทางการขายของตนเอง หรือ หากใครมีธุรกิจแล้ว แต่อยากขายสินค้าเพิ่มเติม และไม่มีเงินลงทุนเพื่อสต๊อกสินค้ามากพอ การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย จึงตอบโจทย์สำหรับคนอยากมีธุรกิจโดยเฉพาะ  ส่วนการจำหน่ายนั้น จะมีทั้งแบบสต็อกสินค้า หรือไม่สต็อกสินค้าก็ได้ การเป็นตัวแทนจำหน่าย จะเหมือนเป็นผู้ช่วยขายสินค้า สามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมาก กำไรส่วนแบ่ง ขึ้นอยู่ที่กลยุทธ์การขายว่าเก่งแค่ไหน

ความแตกต่างของ ตัวแทนจำหน่าย แบบสต๊อกและไม่สต๊อกสินค้า

 

ตัวแทนจำหน่ายแบบสต๊อกสินค้า

คือจะต้องไปซื้อสินค้าจากต้นสังกัด หรือบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ มาเป็นจำนวนมาก และเก็บสินค้าไว้ขายเอง จัดส่งสินค้าเอง หรือ ขายตรง กับผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่เจ้าของแบรนด์ จะเป็นผู้ตั้งราคาแพ็คเกจสินค้าไว้ให้ตัวแทนจำหน่าย ว่าซื้อปริมาณไหนคุ้มราคา เพื่อให้ได้ส่วนต่างกำไรที่ดี สมเหตุสมผล กับราคาที่รับมา

ตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า

เป็นการลงทุนธุรกิจที่ง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ไม่ต้องไปซื้อสินค้ามาไว้เอง เพียงแค่เป็นตัวแทนจำหน่าย และโปรโมทขายสินค้าให้กับร้านค้า หากมีลูกค้าเข้า ก็แค่แจ้งไปทางร้านค้าต้นทาง เพื่อดำเนินการจัดส่งให้ลูกค้า ทางตัวแทนจำหน่าย มีเพียงหน้าที่นำเสนอ รับออเดอร์ ปิดการขาย ยิ่งถ้าเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบออนไลน์จะง่าย เพราะมีภาพโฆษณากับข้อความไว้ใช้ขายอยู่แล้ว ส่วนรายได้ของตัวแทนจำหน่าย จะมาจากค่าคอมมิชชั่น หรือจากยอดขายตามตกลง

ข้อดีของการเป็น ตัวแทนจำหน่าย

  • ไม่ต้องมีแบรนด์เป็นของตัวเอง จึงไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ
  • สามารถเลือกสินค้าได้ตามใจชอบ เพื่อนำมาขาย
  • เป็นการต่อยอดที่ดี หากต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคต โดยเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการต่างๆ ผ่านการเป็นตัวแทนจำหน่าย
  • ความเสี่ยงไม่สูง โอกาสขาดทุนน้อย มีเจ้าของผลิตภัณฑ์รับรองอยู่
  • มีสื่อโฆษณาสำหรับขายได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาทำเอง
  • กำไรได้แน่นอน อยู่ที่ความสามารถด้านการขาย

 

หน้าที่ ตัวแทนจำหน่าย ต้องทำอะไรบ้าง?

และก็มาถึงเรื่องของ “หน้าที่” หลายคนอาจจะทราบเพียงแค่ว่า ตัวแทนจำหน่าย หรือ อีกนัยหนึ่งก็คือ พนักงานขาย มีหน้าที่เพียงแค่ “ขายของ” แต่แท้จริงแล้วยังมีอีกหลากหลายหน้าที่ ที่ต้องทำเพราะเป้าหมายสูงสุด แต่จะมีอะไรบ้างไปชมพร้อมๆ กันได้เลย

สำรวจตลาด หาสินค้า

ควรทำการมองหาสินค้าที่ต้องการขายก่อน ว่าอยากขายอะไร และจะต้องรวมไปถึง พฤติกรรมผู้บริโภค มองระยะยาวว่ามันจะสามารถทำกำไรได้ หลังจากได้สินค้าแล้ว ก็ต้องมองหาแหล่งรับสินค้าและสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย

หากลุ่มเป้าหมาย

การที่เลือกสินค้ามาขาย ไม่ใช่ว่าจะลงขายให้ใครก็ได้ ต้องมีการสำรวจว่าจริงๆ แล้ว สินค้าที่จำหน่าย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใด เพื่อจะได้หากลยุทธ์การขายให้ตรงกับสินค้านั้นๆ

เป็นตัวแทนจำหน่ายกับแบรนด์ที่เชื่อถือได้

ต้องระวังมากสำหรับยุคนี้ เพราะมิจฉาชีพเยอะ อาจถูกหลอกให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแบบเสียเงินฟรีๆ ดังนั้น แบรนด์ที่เราจะจะไปเป็นตัวแทน ก็ต้องมีฐานลูกค้ามาแล้วระดับหนึ่ง และไว้วางใจได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด มาจากเจ้าของที่มีตัวตนจริงๆ

เลือกรูปแบบการขาย

ปัจจุบันการ การตลาดออนไลน์ เป็นทางเลือกหลัก ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง LINE OA หรือจะเป็นช่องทาง FACEBOOK และก็ต้องเลือกรูปแบบให้ได้ว่า จะขายแบบสต๊อกสินค้าเอง หรือไม่สต๊อกสินค้า ศึกษาและพิจารณาตัวเองในแบบที่เหมาะสม ถ้างบไม่เยอะ ไม่อยากลงทุนให้เสียเปล่า ก็เลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความอดทน ขยัน และสร้างกลยุทธ์ในการขายให้ได้ รวมถึงต้องหมั่นตรวจเช็ค ตอบแชทลูกค้าให้ทัน ใส่ใจลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ก็จะกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายยอดขายปัง ยอดพุ่งได้ในเวลาไม่นาน